…………….มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ” พืชเอาใบให้ใส่ปุ๋ยขี้วัว พืชเอาผลให้ใส่ปุ๋ยขี้ไก่ พืชเอาหัวในดินให้ใส่ปุ๋ยขี้หมูถึงจะดี ” ปุ๋ยคอกจัดเป็นปุ๋ยที่อยู่ในประเภทของปุ๋ยอินทรีย์โดยปุ๋ยคอกจะผลิตจากมูลสัตว์เลี้ยง แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงในแต่ละพื้นที่ในแต่ละภูมิภาคย่อมไม่เหมือนกันเช่นนั้น เกษตรกรจึงสามารถใช้ประโยชน์จากมูลสัตว์ที่เป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงสัตว์อย่างหลากหลาย วันนี้เราจะพูดถึง ปุ๋ยคอก ที่เมืองไทยของเรานิยมใช้กัน เช่น มูลโค มูลกระบือ มูลสุกร มูลม้า และมูลของสัตว์ปีก เป็นต้น มูลสัตว์ถือเป็นปุ๋ยธรรมชาติที่มีธาตุอาหารหลัก N P K โดยตรงมากกว่าวัตถุดิบธรรมชาติชนิดอื่น โดยมูลสัตว์แต่ละชนิดจะมีความเข้มข้นของธาตุอาหารหลักแตกต่างกัน เช่นนั้น หลักในการพิจารณาการเลือกใช้ปุ๋ยคอก จึงจำเป็นจะต้องอาศัยปัจจัยหลักอยู่ 2 ข้อคือ
- ชนิดพืชที่ต้องการปลูก
- สภาพของดินที่ใช้ปลูก
ถ้าสภาพของดินขาดธาตุอาหารหลักตัวใด เราอาจเลือกใช้มูลสัตว์ที่มีธาตุอาหารหลักตัวนั้น ซึ่งมีปริมาณธาตุดังกล่าวสูง และพืชชนิดที่เราเพาะปลูกอาจมีความต้องการร้านอาหารหลักตัวใดตัวหนึ่งในปริมาณมาก ทำให้ธาตุอาหารหลักที่มีอยู่ในดินไม่เพียงพอ อีกครั้งการเพาะปลูกซ้ำๆในระยะเวลานาน อาจทำให้สภาพดินเกิดเสื่อมหมายถึง ธาตุอาหารบางตัวที่พืชต้องการในปริมาณสูงหมดไปจากดินที่ใช้เพาะปลูก เราก็สามารถพิจารณาเลือกมูลสัตว์ที่เหมาะสมมาใช้ได้นั่นเอง
- ข้อดีของปุ๋ยคอก ก็คือ นอกจากจะให้ธาตุอาหารหลักของพืชแล้ว ยังช่วยปรับปรุงสภาพดินไปในตัว ด้วยธาตุอาหารเสริมต่างๆ เช่น แมกนีเซียม กำมะถัน แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบร่อน และโมลินเดน
ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องพิจารณาถึงความต้องการของพืช และพิจารณาถึงสภาพของดิน แล้วจึงมาพิจารณาถึงปุ๋ยข้อมูลสัตว์ที่เราเลือกใช้ เราไม่จำเป็นต้องเลือกใช้มูลสัตว์เพียงชนิดเดียวก็ได้ เราสามารถใช้มูลสัตว์หลายชนิดรวมกันเพื่อให้ธาตุอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด